โรคภัยไข้เจ็บ ตอนที่ 44 – ร่างกายที่แข็งแรง (5)

โดยเฉลี่ยแล้ว หนึ่งคนจะเผาผลาญ (Burn) พลังงาน 0.17 แคลอรีต่อขั้นบันไดที่ปีน (Climb) ขึ้น และ 0.05 แคลอรีต่อขั้นที่ลงมา (Descend) ดังนั้น ถ้าคนหนึ่งใช้บันไดเพียงแค่ 5 ชั้น (Story) ต่อวัน แทนที่จะใช้ลิฟต์ (Elevator) จะเทียบเท่ากับการลดน้ำหนักประมาณ 7 - 8 ปอนด์ (ประมาณ 3.18 – 3.63 กิโลกรัม) ในระยะเวลา 5 ปี

อาจจะดูไม่เป็นตัวเลขมากมาย แต่ในบริบท (Context) ตัวเลขเฉลี่ย น้ำหนักของชายอเมริกัน 184 ปอนด์ (ประมาณ 83.46 กิโลกรัม) ในขณะที่มีอายุ 20 ปี และ 200 ปอนด์ (ประมาณ 90.72 กิโลกรัม) ในขณะที่มีอายุ 30 ปีแล้ว นิสัย (Habit) ง่ายๆ นี้สามารถค่อยๆ (Gradually) ลดน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นในวัยผู้ใหญ่บางคนได้

คนขับรถในสหรัฐอเมริกา ใช้เวลาในการหา (Search) ที่จอดรถโดยเฉลี่ย 17 ชั่วโมงต่อปี ซึ่งเรามักมองหา ที่จอดรถที่ใกล้ที่สุดและสะดวกที่สุด เมื่อระยะทางในการเดินทางไปซื้อของ (Shopping) เพิ่มขึ้น 100 ถึง 200 ฟุต (ประมาณ 30.48 – 60.96 เมตร) จะมีผลกระทบโดยรวม (Overall impact) ต่อวิถีใช้ชีวิต (Life style)

ผลลัพธ์ก็คือ มันสามารถช่วยเปลี่ยนนิสัยและทำให้การใช้ชีวิตน้อยกิจกรรม (Sedentary) ลดลงลงมา การเดินด้วยขา (On foot) โดยระยะเวลาเพิ่มขึ้น จะเผาผลาญ (Burn) พลังงานมากขึ้น และจะทำให้ง่ายขึ้นในการบรรลุความสมดุล (Balance) ในสมการพลังงาน (Energy equation)

การนั่งเกินเวลาไป (Excessive sitting time) เชื่อมโยง (Link) กับโรคอ้วน (Obesity), โรคหัวใจ (Heart disease), โรคมะเร็ง (Cancer), โรคเบาหวาน (Diabetes) และความตาย (Death) ผู้ใหญ่ชาวอเมริกันเฉลี่ยแล้ว นั่ง 6 ถึง 7 ชั่วโมงต่อวัน และ 1 ใน 4 ของผู้ใหญ่ชาวอเมริกันนั่งมากกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน

การเพิ่มเวลาที่ยืน (Standing time) ขณะทำงานหรืออยู่บ้าน เป็นวิธีที่ง่ายในการเปลี่ยนแปลงการใช้พลังงานของเรา และลด (Mitigate) ความเสี่ยง (Risk) ข้างต้น ขณะที่เรายืนขึ้น เราจะกระตุ้น (Activate) กล้ามเนื้อ (Muscle) ที่ต้องใช้ในการค้ำจุนรูปทรง (Posture) ของร่างกาย

นี่เป็นการใช้พลังงานโดยตรงและเผาผลาญแคลอรีมากว่าการนั่ง โดยเฉลี่ยแล้ว ผู้ชายที่น้ำหนัก 160 ปอนด์ (ประมาณ 72.56 กิโลกรัม) จะเผาผลาญพลังงานมากกว่า 40 แคลอรีต่อชั่วโมงเมื่อยืน เปรียบเทียบกับการนั่ง ที่เผาผลาญพลังงานได้เพียง 20 แคลอรี่ต่อชั่วโมง หากยืนเพิ่มขึ้นเพียง 1 ชั่วโมงต่อวัน จะเทียบเท่ากับ (Equivalent) 4 ปอนด์ (ประมาณ 1.81 กิโลกรัม) ต่อปี ซึ่งช่วยลดน้ำหนักที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้น ได้

ต่อไปนี้ เป็นรายการ (List) ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม (Behavior modification) ที่ง่ายต่อการนำไปใช้ (Apply)ในชีวิตประจำวัน นี้สามารถทำให้การบริโภคแคลอรีลดลงและการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นได้ บางทีการนำไปใช้ในชีวิตประจำวันที่ประสบความสำเร็จ อาจเป็นฐาน (Stepping stone) ที่ดีในการเปลี่ยนแปลงนิสัย (Habit) โดยรวมTop of Form

แหล่งข้อมูล – 

  1. Ramirez, Lucas, MD. (2022.o Simplify Your Health: A Doctor’s Practical Guide to a Healthier Life. Texas, USA: Black Rose Writing.
  2. สันต์ ใจยอดศิลป์, นพ. (2560). สุขภาพดีด้วยตัวคุณเอง: Good Health by Yourself (eBook). พิมพ์ครั้งที่ 2 กรุงเทพฯ: บริษัท พิมพ์สวย จำกัด.